เผด็จการ นายปัก จุงฮี

ซึ่งในเรื่องหนึ่งที่น่าสังเกตในการปกครองของเผด็จการเกาหลีก็คือการออกกฎหมายและกฎหมายในหลายฉบับไม่ว่าจะเป็นกฎหมายพรรคการเมืองที่บังคับให้พรรคการเมืองมีที่ทำการพรรคอยู่ในเมืองหลวงเท่านั้นแต่ต้องมีสำนักงานในทุกจังหวัดทั่วประเทศและไม่ให้มีความยึดโยงกับประชาชนในพื้นที่ของตัวเองหรือกฎหมายเลือกตั้งที่ กกต. ได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นกับพรรคฝ่ายค้านแต่ก็ปล่อยให้พรรครัฐบาลทำได้ทุกอย่าง

การใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมแทน ที่จะใช้การบังคับด้วยกำลังสร้างความคุ้นเคยที่อันตรายให้กับประชาชนนั่นก็คือความรู้สึกฝังหัวลึกๆว่าเวทีการเมืองปกติก็จะต้องถูกกำกับด้วยกฎหมายแบบนี้การที่พรรคการเมืองมีกฎหมายบังคับมากมายนั้นเป็นเรื่องปกติทั้งๆที่หากลองคิดดูๆแล้วบทบาทหน้าที่แท้จริงของพรรคการเมืองก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการอาสาเป็นตัวแทนของประชาชนเท่านั้น

นอกจากนี้เขาจะมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ไหนหรือมีสาขาครบทุกจังหวัดหรือไม่มันไม่ใช่สาระสำคัญแม้แต่น้อยนี่คือสิ่งที่นักวิชาการบางท่านเรียกว่า

การเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบอนุรักษ์นิยม 

เมื่อ นายปักจุงฮี ได้อยู่ครบ/วาระในปี ค.ศ.1971 ก็มาถึงทางตันเพราะว่ารัฐธรรมนูญที่เขียนเองใช้เองกำหนดได้แค่อยู่สองวาระเท่านั้นที่ผ่านมาก็ชนะพรรคของพลเรือนแบบฉิวเฉียดมาตลอด

ถ้าเปลี่ยนตัวขึ้นมาก็กลัวจะแพ้  นายปักจุงฮี  เลยแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวเองอยู่ต่อไปได้เรื่อยๆแบบที่นายรีซึงมันเคยทำมาแล้วและเขาก็ชนะการเลือกตั้งเป็นครั้งที่3แต่ก็เป็นการเลือกตั้งที่ค้านสายตาประชาชนมากๆกฎเขียนเอาไว้ว่าสองวาระอันนี้แก้หน้าตาเฉยเลยทำให้เกิดแรงต่อต้านมากแม้แต่ฐานเสียงในเมืองหลวงที่เคยเลือกพรรคทหารมาเสมอก็ยังหันไปเลือกฝ่ายพลเรือนแทน 

เนื่องจากฝ่ายค้านและนักศึกษาแรงงาน จำนวนมากจับมือกันต่อต้านเขารุนแรงงานขึ้นหลังเลือกตั้งไม่นาน นายปัก จุงฮี ก็ตัดสินใจประกาศสภาวะฉุกเฉินงบใช้รัฐธรรมนูญยุบสภายุบพรรคการเมืองเรียกสั้นๆว่าทำรัฐประหารตัวเองนั่นแหละเป็นอันว่าสิ้นสุดสาธารณรัฐที่สาม

ยุคสาธารณรัฐที่สี่ ค.ศ.1972 – 1979 หลังจากได้กลับไปปกครองด้วยการประกาศสภาวะฉุกเฉินอยู่ราว1ปีในปี  ค.ศ.1972 รัฐบาลของปัก จุงฮี ก็ประกาศใช้รัฐธรรนูญใหม่ที่เรียกว่า รัฐธรรมนูญยูชิน

นอกจากตั้งตัวเองเป็นประธานาธิบดีแล้วก็ยังใช้อำนาจประธานาธิบดีแบบล้นเหลือเป็นได้ไม่จำกัดวาระอีกทั้งยังได้แต่งตั้งสมาชิกสภาได้ถึง1ใน3ให้พวกตัวเองให้ยกมือให้เป็นประธานาธิบดีต่อมาได้อีกถึง2สมัยเสรภาพไม่ต้องพูดถึงเผด็จการเต็มที่มีหน่วยข่าวกรองKCIAเป็นมือเป็นไม้คอยขัดขวางการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลและจัดการกับฝ่ายค้านคอยยุบพรรคการเมือง

เรื่องนี้ถูกเขียนใน ประวัติศาสตร์ และติดป้ายกำกับ คั่นหน้า ลิงก์ถาวร