โบราณสถานหลุมเมือง เป็นโบราณสถานที่แปลกประหลาดซึ่งที่เรานั้นยังหาหลักฐานที่แน่ชัดไม่ได้ว่า หลุมเมืองโบราณสถานนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออะไร
ซึ่งลักษณะเป็นหลุมที่เจาะลึกลงไปจนถึงพื้นศิลาแลงธรรมชาติซึ่งจะเรียงกันเป็นแนวคล้ายกับหลุมขนมครกซึ่งโดยแต่ละหลุมนั้นจะห่างกันประมาณ 1 เมตร ซึ้งจะตั้งอยู่ในเมืองหรือว่าที่บ้านโคกขวาง อ.ศรีมหาโพธิ จ. ปราจีนบุรี
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 ได้มีพระราชหัตถเลขาถึงโบราณสถานหลุมเมืองเมื่อครั้งที่เสด็จทอดพระเนตรเห็นซึ่งท่านก็บอกว่าท่านเองนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร
และเหตุที่ได้ตั้งชื่อว่าหลุมเมืองนั้นก็เพราะว่าคนรุ่นเก่านั้นได้เชื่อกันว่าเป็นหลุมสำหรับการเล่นกีฬาพื้นบ้านของคนในสมัยนั้นที่เรียกกันว่าหลุมเมืองหรือเปล่า ซึ่งจะนิยมเล่นในเทศกาลที่สำคัญ เช่น เทศกาลสงกรานต์
ส่วนวิธีในการเล่นนั้น ผู้ที่เล่นทั้งสองฝ่ายนั้นจะนั่งอยู่คนละมุมหรือว่าคนละข้างของหลุม ( จำนวนของหลุมนั้นมีไม่จำกัด ) ซึ่งเรานั้นต้องทำการตกลงกันก่อนว่าเรานั้นจะใส่เงินลงไปในหลุมนั้นคนละเท่าไหร่ ซึ่งถ้าเป็นในสมัยนั้นก็จะเป็นเรื่องของเบี้ย อัด หรือว่าสิ่งของที่เป็นของใช้นั้นก็แต่ที่เรานั้นจะตกลงกันเล่น ซึ่งเรานั้นจะต้องหยอดลงไปในหลุ่มนั้นแตละหลุมนั้นจะได้เท่ากัน
แต่ว่าจะมีอยู่คนหลุมที่เรานั้นจะเป็นต้องใส่เงินหรือว่าเบี้ยนั้นมากกว่าหลุมอื่นๆจากนั้นเราก็ทำการที่เรานั้นใส่เงินลงไปในแต่ละหลุมนั้นที่เท่ากัน หยอดไปจนว่าเรานั้นคือใส่เงินจนเงินเรานั้นหมด และเมื่อเงินที่อยู่มือของเรานั้นหมดให้นั้นเราก็หยิบเงินจากหลุมที่ถัดไปนั้น
ออกมาหยอดเหมือนกับที่เรานั้นทำเมื่อกี้นี้ให้เรานั้นทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าว่าเรานั้นจะเจอหลุมที่ว่างผู้ที่เล่นนั้นจะมีสิทธิกินเบี้ยทั้งหมดในหลุมถัดไป จากหลุมที่ว่างซึ่งคนที่เล่นทั้งสองคนนั้นจะทำแบบนี้เหมือนกันเล่นกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั้นเงินหมดที่จะลงทุนก็เลิกไปผให้ผู้อื่นนั้นมาลงเล่นแทน
และมีหนึ่งที่หนึ่งแห่งที่เป็นพื้นที่ลานศิลาแลง นั้นกว้าง 10 ศอก ยาวสัก 3 วา ขุดเป็นหลุมกลมๆ ความกว้างของปากหลุมนั้นประมาณคืบกว่าๆ ความลึกนั้นประมาณศอกหนึ่งเจาะชิดกันบ้างห่างกันบ้าง ไม่เป็นหลุมพื้นที่เกลี้ยง ซึ่งได้เดากันว่าหน้าจะหลุมสำหรับโขลกปูนที่จะปั้นลวดลายเครื่องประดับปรางค์ปราสาทศิลาแลง